เทรนด์ฮิตของกันแดดกับคำว่า HYBRID SUNSCREEN
เทรนด์ฮิตของกันแดดกับคำว่า HYBRID SUNSCREEN
เป็นกระแสกันมาสักพักกับ #เทรนด์กันแดด ที่สร้างความตื่นตัวให้สาวๆ ปฏิวัติการใช้แบบ 2 ข้อนิ้วมือ หรือที่พูดกันติดปากว่า #ทากันแดด2ข้อนิ้ว และค่านิยมให้ทากันแดดในตอนเช้าทุกๆวัน ทาซ้ำระหว่างวัน ก็อย่างว่าแสงแดดประเทศไทยเกินคำว่าร้อนนน แผดเผาเราซะขนาดนี้ เราเลยหลีกเลี่ยงการทากันแดดไม่ได้ จึงทำให้ความนิยมของกันแดดทวีคูณมากขึ้น แต่วันนี้เจดวิชจะพาทุกคนมารู้จักกับอีกคำที่กำลังเป็นที่นิยมกับกระแสกันแดดที่เรียกว่า >> HYBRID SUNSCREEN
HYBRID SUNSCREEN คืออะไร
นางคือลูกครึ่งระหว่าง PHYSICAL SUNSCREEN และ CHEMICAL SUNSCREEN ที่ผสานความลงตัวของทั้งสองแบบ โดยจะเอาคุณสมบัติการสะท้อนรังสีของ PHYSICAL SUNSCREEN และคุณสมบัติการดูดซับรังสีของ CHEMICAL SUNSCREEN มารวมกัน เช่นสาร Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol หรือ Tinosorb M (ปกป้องผิวจากรังสี UVA-I,UVA-II, UVB ได้) จึงทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของกันแดดช่วยปกป้องและป้องกันได้ดีและนานมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้เลือกประเภทให้เหมาะกับสภาพผิวได้ดีขึ้น
หลายคนคงเริ่มสงสัยมากขึ้นแล้วว่าระหว่าง PHYSICAL SUNSCREEN และ CHEMICAL SUNSCREEN ทำงานต่างกันอย่างไร คือ
PHYSICAL SUNSCREEN ทำหน้าที่เหมือนเป็นกระจกเงาสะท้อนรังสี UV ออกไปจากผิว สารในกลุ่มนี้มี Titanium Dioxide และ Zinc Oxide เป็นส่วนประกอบหลัก ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA-I,UVA-II,UVB ไม่ตกค้างหรืออุดตันรูขุมขนน้อย มีความปลอดภัยสูงกว่าแบบ #ChemicalSunscreen เนื่องจากไม่มีส่วนผสมซึมเข้าสู่ผิวทำให้เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและคนเป็นสิว
แต่มีโอกาสสูงที่บางจุดได้รับการปกป้องไม่ทั่วถึงถ้า #ทากันแดด ในปริมาณที่น้อยเกินไป และการใช้ในปริมาณมากอาจเป็นคราบขาว หากล้างหน้าไม่สะอาดก็อาจจะทำให้เกิดการอุดตัน และเกิดเป็นสิวได้เช่นกันนะ><! อีกทั้งไม่ค่อยทนกับน้ำหรือเหงื่ออาจหลุดออกได้ง่าย จึงต้องทาซ้ำระหว่างวัน
สรุปง่ายๆคือ Physical Sunscreen: ทำหน้าที่เพียงแค่ปกคลุมสร้างเกาะบนผิวไว้ไม่ให้ UVA/UVB ตกกระทบผิวได้โดยตรง
ข้อดี
: ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA-I,UVA-II,UVB
: ไม่ตกค้างหรืออุดตันรูขุมขนน้อย
: มีความปลอดภัยสูงกว่าแบบ #ChemicalSunscreen เนื่องจากไม่มีส่วนผสมซึมเข้าสู่ผิว
: เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและคนเป็นสิว
ข้อเสีย
: มีโอกาสสูงที่บางจุดไม่ได้รับการปกป้องไม่
: ใช้ในปริมาณมากอาจเป็นคราบขาว
: ไม่ค่อยทนกับน้ำหรือเหงื่ออาจหลุดออกได้ง่าย
: อาจเกิดการอุดตัน ถ้าล้างหน้าไม่สะอาดก่อให้เกิดสิว
CHEMICAL SUNSCREEN ทำหน้าที่ดูดซับรังสีไม่ให้ทะลุผ่านไปยังผิวหนังได้ เนื้อมีความบางเบา เกลี่ยง่าย เป็นสารกันแดดที่พบได้ทั่วไปเช่นสาร Oxybenzone, Octinoxate, Octisalate ฯลฯ ปริมาณการใช้ในการปกป้องผิวน้อยกว่าแบบ #PhysicalSunscreen และยังสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์สกินแคร์หรือเครื่องสำอางได้ง่าย สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ทุกตัว แต่การปกป้องจากรังสียูวีเอ UVA-I, UVA-II แตกต่างกันไปตามแต่ละสูตร ทำให้อาจจะต้องใช้สารหลายตัวในสูตร จึงเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ง่ายหรือระคายเคืองได้มากกว่า โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา เนื่องจากเนื้อเกลี่ยซึมง่ายจึงอาจอุดตันรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวได้ง่าย จึงเหมาะกับสภาพ #ผิวทั่วไป หรือ #ผิวผสม
สรุปคือ CHEMICAL SUNSCREEN: ช่วยดูดซับรังสี UV ไว้ ไม่ให้ทะลุผ่านไปสัมผัสกับผิวหนังได้
ข้อดี
: เนื้อมีความบางเบา เกลี่ยง่าย
: ปริมาณการใช้ในการปกป้องผิวน้อยกว่าแบบ #PhysicalSunscreen
: ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์สกินแคร์หรือเครื่องสำอางได้ง่าย
ข้อเสีย
: ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ทุกตัว แต่ปกป้องจาก UVA อาจไม่ครบทุกชนิด(แตกต่างกันไปตามแต่ละสูตร)
: เสี่ยงต่อการเกิดการแพ้หรือระคายเคือง
: อุดตันรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวได้ง่าย
